การเลือกซื้อชุดเครื่องนอนก็เหมือนกับการเลือกซื้อเสื้อผ้า คือต้องเลือกตามความชอบและบุคลิกของตัวเราเอง โดยอาจเลือกจากลายผ้า สีของผ้า บางคนอาจจะเลือกให้เหมาะสมกับห้องนอนของตัวเอง ชิคๆ คูลๆ คุมโทนก็ว่ากันไป แต่อย่าลืม!!ขนาดของผ้าปูที่นอนต้องเท่ากับขนาดของเตียงด้วยนะ เพราะถ้าซื้อมาเล็กเกินไปเวลานอนยางยืดรัดมุมอาจจะเด้งขึ้นมา หรือถ้าซื้อมาใหญ่เกินไปผ้าปูตรงหัวนอนก็อาจจะย่นลงมาให้เราทักทายกับฟูกได้ แอดมินก็ค่อนข้าง perfectionist อ่อน ๆ แบบไม่ได้อะแม่ !! ต้องเปิดไฟมาดึงลงไปให้เข้าทรงพอให้สบายใจถึงจะหลับได้ และที่สำคัญ เนื้อผ้าของชุดเครื่องนอนต้องมีผิวสัมผัสที่ดีด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพักผ่อนของเราเอง นอนๆอยู่แล้วรู้สึกคันนี่บางทีก็คิดนะว่าผ้าปูสกปรกเกินไปรึป่าว แต่ก็เปลี่ยนชุดเครื่องนอนบ่อยนะไม่น่าจะขนาดนั้น งั้นเนื้อผ้านี่แหละน่าจะเป็นอีกเหตุผลของสาเหตุนี้ ไม่รอช้าจ่ะ หาข้อมูลเลยว่าผ้าปูที่ดีมันต้องเป็นแบบไหน เลยได้ข้อมูลเนื้อผ้าที่ปัจจุบันเขาใช้ๆกันอยู่นั้นมีหลักๆอยู่ 5 แบบ คือ
- ผ้าฝ้าย หรือ Cotton เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด สามารถระบายอากาศได้ดี สามารถใช้ผงซักฟอก และใช้ความร้อนสูงรีดได้ เนื้อผ้าจะมีความเรียบเนียนนุ่มฟูและทนทานจึงทำให้ไม่ระคายผิว ตามท้องตลาดจะระบุเบอร์ของเนื้อฝ้ายคือเบอร์ 20,32,40 ยิ่งเบอร์น้อยราคาจะยิ่งถูก เพราะเส้นใยที่นำมาทอจะมีขนาดใหญ่ทำให้เนื้อผ้าไม่ค่อยละเอียด ส่วนเบอร์ 40 จะเห็นตามท้องตลาดได้น้อยส่วนมากจะนำมาผลิตเป็นชุดเด็ก เพราะเส้นใยจะมีขนาดเล็กสุดทำให้ทอออกมาแล้วเนื้อผ้าจะมีขนาดละเอียดไม่ทำให้ระคายเคืองกับผิว แต่ๆๆเนื้อผ้าชนิดนี้ถ้าเอาไปซักผ้ามันจะหดได้ และจะหลุดเป็นขุยเม็ดๆทำให้สากผิวอีก
2. ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ ก็คือเป็นเส้นใยผสมระหว่างผ้าฝ้าย 100% และ Polyester หาได้ง่ายตามท้องตลาด ข้อดีของผ้าชนิดนี้คือเมื่อซักแล้วเนื้อผ้าจะไม่หด ไม่ย้วย ยับยาก เพราะมีเส้นใยสังเคราะห์ผสมอยู่ แต่ข้อเสียคือด้วยความเป็นผ้าที่มีเส้นใยสังเคราะห์ผสมอยู่ด้วย เลยทำให้ระบายอากาศได้ไม่ค่อยดีเท่าไร เวลานอนเลยรู้สึกเหมือนที่นอนจะอุ่นๆตลอดเวลา
3. ผ้าไหม คือผ้าที่ทำมาจากเส้นใยของตัวไหม ส่วนมากจะนิยมทำเป็นเสื้อผ้ามากกว่า ผ้าไหมจะเก่าเร็วถ้าซักรีดบ่อย ๆ ไม่ทนต่อสารซักฟอกที่มีส่วนผสมของด่างเข้มข้นและไม่ทนต่อแสงแดด เวลาซักรีดผ้าไหมจึงต้องทำอย่างระมัดระวังมากกว่าการซักผ้าชนิดอื่น แต่ที่นำมาทำเป็นผ้าปูที่นอนด้วยก็เพราะว่า ผ้าไหมมีคุณสมบัติในการปรับให้ร้อนหรือเย็นได้ดี คือจะรู้สึกเย็นเมื่ออากาศร้อน และจะรู้สึกอุ่นเมื่ออากาศหนาวนั่นเอง
4. ผ้าซาติน คือ ผ้าที่มีความยืดหยุ่น และคงรูปได้ดี ซักง่าย แห้งเร็วไม่ต้องรีด เนื้อผ้ามีลักษณะมันวาว นุ่ม ลื่น ให้สัมผัสที่ดีกับผิวของเรา เส้นใยผ้าสามารถใช้ได้ทั้งเส้นใยฝ้าย เส้นใย Polyester เส้นใยไหม ซึ่งแต่ละเส้นใยก็จะมีคุณสมบัติต่างกันออกไปตามที่ได้อธิบายข้างต้น แต่เมื่อนำเส้นใยผ้าต่าง ๆ มาทอแบบผ้าซาตินก็จะให้สัมผัสที่ดีขึ้นได้ แต่ผ้าชนิดนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกันนั่นก็คือหลุดลุ่ยง่ายและมีค่าบำรุงรักษาที่สูง แต่ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากับการซื้อมาเป็นผ้าปูที่นอนของเรานะ
5. ผ้าสักหลาด คือผ้าที่ทำโดยการเรียงแผ่นเส้นใยบางๆ หลายๆ ชั้นแล้วกดอัดให้แน่นเป็นผืนเดียว คุณสมบัติของผ้าชนิดนี้คือให้ความอบอุ่นได้ดี จึงนิยมนำมาใช่งานในช่วงหน้าหนาว ส่วนมากแอดมินจะเห็นตามโรงแรมถ้าแอร์หนาวๆก็มุดตัวเข้าใต้ผ้าสักหลาดนี่แหละ ฟินน
จบไปแล้วทั้ง 5 แบบ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับลูกบ้านทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่าน ซื้อชุดเครื่องนอนรอบหน้าก็อย่าลืมดูเนื้อผ้าให้ดีๆ ซื้อแบบที่ชอบลงทุนแพงหน่อยแต่การใช้งานคุ้มค่าเด้อ หรือถ้าลูกบ้านท่านใดมีความรู้เรื่องเนื้อผ้าก็สามารถแชร์ความรู้กันได้นะครับ